กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กน้อยคนหนึ่งเฝ้ามองปราสาทหลังโตจากที่ไกลลิบ
เขาใฝ่ฝันอยากอยู่ในปราสาทหลังนั้น เขาเชื่อว่าในนั้นมีแต่ความสุข
เขาจึงพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าไปอยู่ในนั้น “ในปราสาท”
และแล้ววันหนึ่ง ปราสาทหลังงามก็ตั้งอยู่ตรงหน้าของเด็กน้อย
ปราสาทหลังมหึมา ก่อด้วยอิฐหลากสีเป็นล้านๆชิ้น
โดยรอบมีแม่น้ำกว้างขนาด2ช่วงคน วนเป็นแนวรั้ว
เด็กน้อยไม่รอช้า เขารีบสร้างสะพานเพื่อเข้าไปในปราสาทหลังนั้นทันที
เด็กน้อยออกวิ่งเล่น สายตาสอดสองไปโดยรอบปราสาท
เขาอาสาปกป้องดูแล เฝ้าทนุถนอม รักษา
เฝ้าจดจำทุกพื้นที่ ทุกรายละเอียด ทุกเรื่องราว
และมอบความรักทั้งหมดของเขาให้ปราสาทหลังนี้
เขาบอกกับตัวเองเสมอมาว่า “ใน ปราสาท นี้ มี แต่ ความสุข”
แต่แล้ววันหนึ่ง เด็กน้อยพบกับความเป็นจริง
ความจริงที่ว่า เขาไม่เคยเข้าไปในปราสาทหลังนี้เลย
ที่ผ่านมาเขาเพียงแค่วิ่งไปรอบๆ และเฝ้ามองแต่ภายนอกเท่านั้น
โดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าภายในปราสาทหลังนี้ป็นอย่างไรบ้าง?
เด็กน้อยนั่งกอดเข่าปล่อยน้ำตาให้ไหลลงบรรจบกับสายน้ำรอบปราสาท
ขณะนั้นเอง ประตูปราสาทก็เอ่ยกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงที่ไพเพราะกังวานว่า
“เจ้าจะเสียใจกับปราสาทของคนอื่นทำไม?
เสียใจทั้งๆที่ไม่รู้ว่าปราสาทแห่งนี้สามารถมอบความสุขให้กับเจ้าได้จริง?
เสียใจทั้งๆที่ไม่รู้ว่าข้างในนั้นมีอะไร? หรือเป็นอย่างไรบ้าง อย่างนั้นหรือ?
…ทำไมเจ้าไม่ลองสร้างปราสาทของเจ้าขึ้นมาเองล่ะ?
เจ้าชื่นชอบหรืออะไรที่มีความสุขสำหรับเจ้า ก็เติมมันเข้าไป
เผลอๆ อาจมีคนมากมาย อยากเชยชมปราสาทของเจ้าอยู่ก็เป็นได้!”
เด็กน้อยคิดตามคำกล่าวของประตูปราสาท
แล้วถามตัวเองออกไปว่า..
“จะมีความสุขแค่ไหน? ถ้ามีปราสาทเป็นของตัวเอง”
และเด็กน้อยก็ออกเดินทางอีกครั้ง พร้อมกับเป้าหมายใหม่
นั่นคือ ‘การสร้างปราสาทของตัวเอง’
หากคุณคือเด็กน้อยคนนี้ ในวันนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่?
ชมชม
kruchomchom 
ถ้าฉันเป็นเด็กน้อยคนนั้นฉันจะสร้างปราสาทของตัวเอง และมันจะเป็นปราสาทที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุด เพราะทุกอย่างในปราสาทนั้น คือ สิ่งที่ฉันชอบและสนใจ
ถูกใจถูกใจ
ทำให้คนที่เรารักมีความสุข แม้ความสุขนั้นจะไม่มีเราอยู่ด้วยเลยก็ตาม …เพราะเวลาเห็นรอยยิ้มของคนๆนั้น ในหัวใจก็เบิกบานแล้ว เพราะงั้นในใจหัวเราเป็นยังไงคงไม่มีใครรู้หรอก เหมือนเด็กน้อยคนนั้นนั่นแหละ แค่เห็นปราสาทก็มีความสุขแล้ว ฉะนั้นคนที่พี่รักคือปราสาทของพี่จ้า
ปล…วันนี้คุณยิ้มแล้วรึยัง?
ถูกใจถูกใจ
ยิ้มตั้งแต่ตื่นนอนแล้วค่ะพี่ ^^
หนูค้นพบบางอย่างจากเรื่อง “ปราสาท”
คนที่หนูให้อ่าน บางคนเขาตีความหมายปราสาทคือ ความฝัน
บางคนก็บอกว่าคือ เป้าหมาย บางคนก็บอกว่า คืออนาคตของเขาอีก และบางคนซึ่งรวมถึงพี่ด้วยก็ตีความหมายของปราสาทคือ ความรัก
ปราสาทของเด็กน้อย เป็นปราสาทที่มีความหมายมากมาย หนูดีใจมากเลยค่ะ ที่มีคนให้ความหมายของปราสาทมากมายขนาดนี้
ทั้งที่ตอนที่หนูเขียน หนูเองก็ยังบอกไม่ได้เลยว่า ปราสาท ในความหมายที่แท้จริงของเด็กน้อยคนนี้ หมายถึงอะไร?
^^
ถูกใจถูกใจ
ใช่ค่ะ มันเป็นอะไรก็ได้ตามมุมมองและความนึกคิดของคนแต่ละคน
แต่ขอเสริมนะว่าปราสาทของพี่ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นคนที่พี่รักต่างหากจ้า และเป็นรักที่ไม่หวังผลตอบแทนด้วย
ปล…หนูเขียนเชิงเปรียบเปรยได้ดีและเข้าใจง่าย เหมือนคำถามเชิงจิตวิทยาเลยจ้า…
ถูกใจLiked by 1 person
ขอบคุณค่ะพี่ หนูจะพัฒนาต่อไป ^^
ถูกใจถูกใจ